blogger นี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชา อินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในชีวิประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

น่ารัก

 นาทีนี้ไม่มีน้องหมาตัวไหนโด่งดังไปกว่าเจ้า "บู" (Boo) สุนัขปอมเมอเรเนียน มินิเจอร์สีน้ำตาลที่แสนน่ารัก น่ากอดตัวนี้อีกแล้ว เพราะเพียงแค่คลิปวีดิโอที่โพสต์ในเว็บไซต์ยูทูป ก็มีคนคลิกเข้าไปชมความน่ารักของมันแล้วเป็นล้าน ๆ ครั้ง แต่แค่นี้ยังจิ๊บ ๆ นะจ๊ะ เพราะเจ้าบูยังแอบมีเฟซบุ๊กส่วนตัวกับเขาด้วย แถมมีชาวไซเบอร์แอบหลงรักจนเผลอตัวเผลอใจกด Like ให้เจ้าบูไปแล้วกว่า 1 ล้านคนด้วยแหนะ

boo dog

boo dog

boo dog


           โดย (เจ้าของ) เจ้าบู อัพเดทข้อมูลในเฟซบุ๊ก BOO ว่า "ฉันชื่อบู ฉันเป็นสุนัขตัวหนึ่ง และคนทั่วไปก็รักฉันมาก" พร้อมกับบอกว่า ตัวเองชอบสีชมพู ชอบทานเนื้อไก่ ชีส ดอกไม้ ใบหญ้า ดิน แถมยังชอบวิ่งออกไปเล่นนอกบ้าน นอกจากนี้ ยังชอบสวมเสื้อเชิ้ตเล่นในเวลาว่าง ๆ ด้วยซะงั้น 

           มิน่าล่ะ เราถึงเห็นภาพเจ้าสุนัขขนฟูตัวนี้ สวมเสื้อผ้าสวย ๆ แว่นตาเก๋ ๆ โพสท่าเท่ๆ บวกกับทำหน้าบ๊องแบ๊ว ๆ ต่อหน้ากล้องอยู่บ่อยครั้ง แต่นี่แหละที่ทำให้บรรดาคนรักสุนัข ทั่วโลกพากันหลงรัก พร้อมกับยกให้เจ้าบูเป็น "สุนัขที่น่ารักที่สุดในโลก" ไปเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ ถึงขนาดว่าเจ้าบูแอบมีหนังสือ "Boo: The Life of the World's Cutest Dog" ที่เก็บรวบรวมภาพความน่ารักน่าฟัดทุกอิริยาบถเป็นของตัวเองซะด้วย เท่ไหมล่ะ
           เห็นความน่ารักของมันแบบนี้แล้ว อยากเลี้ยงสักตัวไหมจ๊ะ!!!


boo dog

boo dog

boo dog


เจ้าบู

เจ้าบู

เจ้าบู

น้องบลู II

เจ้าบู

น้อง บลู สุนัขที่น่ารักที่สุดในโลก

สุนัขสายพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่น

สุนัขสายพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่น 
          แหล่งกำเนิด สปิทซ์ญี่ปุ่นเป็นสุนัขสายพันธุ์สุนัขที่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่นและถูกนำเข้าไปยังประเทศในช่วงทศวรรษ 1920 ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการข้ามพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์ที่แตกต่างกันระหว่างสุนัขพันธุ์เยอรมันสีขาว, อเมริกันเอสกิโม, Samoyed ไซบีเรียและสุนัขพันธุ์รัสเซีย
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด 
หลังจากครั้งแรกถูกนำญี่ปุ่นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่แสดงสุนัขโตเกียว ในด้านความนินมนั้นมีการแพร่กระจายความนิยมจากทวีปอเมริกาเหนือไปยังยุโรปและได้นำเสนออย่างเป็นทางการเป็นสายพันธุ์สุนัขในช่วงทศวรรษ 1950 ขณะนี้สุนัขตัวนี้จะถูกเก็บไว้โดยพ่อแม่พันธุ์ส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เป็นสุนัขสหายและมีคุณลักษณะยังอยู่ในวงแสดงลักษณะสายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของสุนัขพันธุ์หนึ่งหรือครอบครัว Spitzen 
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด
 
ลักษณะเฉพาะ สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นมีลักษณะเฉพาะที่มีขนาดเล็กหน้ารูปลิ่มมีหูรูปสามเหลี่ยม ดวงตาเป็นกลมโตและจมูกและริมฝีปากเป็นสีดำ สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสุนัขที่มีขนหนาและลักษณะนิสัยใจดี
สี สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นจะมีเฉพาะสีขาว
          
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด
ลักษณนิสัย อารมณดี ,ฉลาดคึกคะนองทะเล้นและขี้เล่น มีการเตรียมพร้อมที่จะเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีเยี่ยม สายพันธุ์นี้จะสามารถฝึกหัดได้ดีมาก สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นยังสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ และสัตว์ได้เป็นอย่างดี เมื่ออยู่ในครอบครัวสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รักใคร่ของคนในบ้านมาก และยังสามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้อีกด้วย
ความสูง 28-36 ซม. และ น้ำหนัก 5- 7 กก. 
 
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด

           ปัญหาสุขภาพ  ปัญหาสุขภาพของสุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นที่อาจเกิดขึ้นได้คือการเคลื่อนของกระดูกสะบ้าหัวเข่า นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะต้องมีน้ำตาไหลมาก แต่นอกเหนือจากสองสิ่งนี้สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นมีความกังวลเรื่องสุขภาพอื่น ๆ ที่ร้ายแรงน้อยมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้
 
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด

           การอยู่อาศัย เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง, แม้ว่าพวกมันจะถูกเลี้ยงไว้ในบ้านแต่ก็ต้องการที่ออกกำลังกายเพียงพอ เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นสามารถเลี้ยงได้แต่ต้องมีเวลาให้เต้าด้วย เขาจะสนุกกับการเป็นเพื่อนกับมนุษย์ อาจพาออกไปเดินเล่นบ้างสัปดาห์ละครั้ง
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด 
การฝึกการอบรม ความต้องการของสุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นสามารถฝึกหัดได้หากการฝึกเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นมีความเป็นธรรมชาติสูง หากเค้าต้องการอะไรจะแสดงออกให้เรารู้เลยตรงๆ
อายุเฉลี่ย สุนัขพันธุ์สปิทซ์ญี่ปุ่นมีอายุขัยเฉลี่ยอายุโดยเฉลี่ย 9 ถึง 15 ปี
Dogilike.com :: สปิทซ์ญี่ปุ่น ใครเห็นเป็นต้องอยากกอด
 
สุนัขพันธุ์นี้ต้องดูแลรักษาขนและแปรงขนบ่อย เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขนเยอะ เพื่อนๆชาวDogilike ที่เลี้ยงน้องหมาพันธุ์นี้อย่าลืมแปรงขนให้มันบ่อยๆนะคะน้องหมาอะไรไม่รู้น่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยอ่ะ น่ากิน...เอ้ย!....น่ากอดที่สุ๊ดดดดเลย อิอิ

เกร็ดน่ารู้ ของสุนัขพันธ์ บีเกิ้ล

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับบีเกิ้ล 
  
           ความสูงมากที่สุดของบีเกิ้ลที่ได้รับการยอมรับในประเทศสหรัฐอเมริกาคือ 15 นิ้ว ขณะที่ในประเทศอังกฤษคือ 16 นิ้ว 

           สุนัขสายพันธุ์บีเกิ้ลจะไม่มีน้ำลายไหลเยิ้ม ไม่ค่อยมีกลิ่นสาบ และผลัดขนน้อยมาก

           Lyndon B. Johnson ประธานาธิบดีคนที่ 36 แห่งสหรัฐอเมริกา เลี้ยงสุนัขบีเกิลจำนวน 3 ตัว ชื่อว่า Him, Her และ Edgar

           ตัวการ์ตูนสนูปปี้ (Snoopy) จากการ์ตูนชุด Peanuts ของ Charles M. Schulz ก็มีต้นแบบมาจากสุนัขสายพันธุ์บีเกิล 

น้อง บีเกิ้ล

 บีเกิ้ล (Beagle) เป็นสุนัขมีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ จัดอยู่ในจำพวกกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ(Hound) มีขนสั้นและหูปรก เป็นสุนัขที่มีประสาทด้านการดมกลิ่นเป็นเลิศ (scent hounds) ถูกพัฒนาสายพันธ์ขึ้นมาคเพื่อเป็นผู้ช่วยมนุษย์ ในกีฬาการล่าต่างๆ โดยเฉพาะการล่ากระต่าย เนื่องจากบีเกิ้ลมีประสาทด้านการดมกลิ่นที่ไวมาก จึงได้มีการฝึกให้เป็นสุนัขตรวจสอบของผิดกฎหมาย อย่างเช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิด ฯลฯ 



บีเกิ้ล


          ขณะเดียวกันบีเกิ้ลก็ได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีขนาดตัวที่พอเหมาะ เป็นสุนัขอารมณ์ดี และสุขภาพแข็งแรงออกแนวอึด ทนทานต่อโรค ด้วยคุณสมบัตินี้เอง บีเกิ้ลยังถูกใช้ในงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์อีกด้วย ทั้งนี้ สุนัขสายพันธุ์บีเกิ้ลมีมากว่า 2,000 ปีแล้ว และมีชื่อเสียงมากในยุคของพระนางอลิซาเบท (Elizabethan era) ซึ่งปรากฏในงานวรรณกรรม จิตรกรรม ภาพยนตร์ โทรทัศน์ และหนังสือการ์ตูนเรื่องสนู๊ปปี้ (Snoopy) ซึ่งสนู๊ปปี้ถือเป็นบีเกิ้ลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก

          ในปี ค.ศ.1985 ได้มีการทำการศึกษาบีเกิ้ล พร้อมกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ อย่าง ยอคเชียร์ เทอเรีย(Yorkshire Terrier) เคนท์ เทอเรีย (Cairn Terrier) เวส ไฮด์แลนด์ ไวท์ เทอเรีย (West Highland White Terrier) ฟอกซ์ เทอเรีย(Fox Terrier) ซึ่งผลออกมาว่า บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่ฉลาด และเป็นสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนามาด้วยจุดประสงค์เดียว คือให้เป็นนักล่ามาเป็นเวลานาน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฝึกค่อนข้างยาก โดยทั่วไปเมื่อมันรับคำสั่งแล้ว จะสั่งยกเลิกได้ยาก และเมื่อมันจดจำกลิ่นหนึ่งได้ มักจะถูกกลิ่นอื่นรอบตัวเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย พวกมันจะไม่ค่อยยอมรับคำสั่งทั่วๆ ไป แต่ก็มีการตอบสนองต่ออาหารที่ดี มีความตื่นตัวสูง ช่างประจบ ในทางกลับกันก็เป็นสุนัขที่เบื่อง่าย



บีเกิ้ล


          ปัจจุบันบีเกิ้ล ได้รับการเลือกเป็นหนึ่งในสุนัขดมกลิ่น ที่ใช้ตรวจสอบหาวัตถุต้องสงสัย ในงานด้านความมั่นคง และทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ (Beagle Brigade) บีเกิ้ลกับบทบาทด้านความมั่นคงในการตรวจสอบตามสนามบิน ซึ่งในปีหนึ่งๆ สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุผิดกฎหมาย ได้ถึง 75,000 รายการต่อปี อีกเหตุผลหนึ่งที่บีเกิ้ลได้รับเลือกในหน้าที่นี้ เพราะว่าบีเกิ้ลมีขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก สามารถเข้าไปตรวจได้แม้กระทั่งคนที่ค่อนข้างกลัวสุนัข ดูแลง่าย ฉลาด และมันทำงานเต็มที่เพื่อรางวัล ซึ่งในหลายประเทศก็ได้มีการ ใช้งานบีเกิ้ลในลักษณะนี้อย่างกว้างขวาง ส่วนสุนัขดมกลิ่นขนาดใหญ่ ก็จะใช้ในงานค้นหาวัตถุระเบิดโดยเฉพาะ และงานที่จำเป็นต้องปีนป่ายเพื่อเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งบีเกิ้ลไม่ค่อยเหมาะกับหน้าที่ลักษณะนั้น

 ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

          บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่สุภาพ พวกมันค่อนข้างเป็นมิตร ไม่ดุร้ายเกินไปหรือเฉื่อยชาเกินไป ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม แต่มันก็เชื่องคนง่ายเกินจึงไม่เหมาะที่จะเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ทว่ามันยังคงเห่าหรือหอนบ้าง เมื่อเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า

          นอกจากนี้ บีเกิ้ลยังเป็นสุนัขที่เหมาะกับเด็กๆ เข้ากับเด็กๆ ในบ้านดีๆ ไม่พบประวัติการทำร้ายเด็ก บีเกิ้ลจึงเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงกันในครอบครัว และบีเกิ้ลยังเข้ากับสุนัขสายพันธุ์อื่นได้ง่าย พวกมันแข็งแรงมาก จึงวิ่งเล่นได้นานโดยที่ไม่เหนื่อยง่ายๆ อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติพวกมันเป็นสุนัขที่อยู่เป็นฝูง เวลานำไปเลี้ยงเดี่ยวจึงอาจเกิดอาการซึมเศร้าได้ และแม้ว่าบีเกิ้ลจะมีพลังเห่าหอนอันรุนแรง แต่ไม่ใช่บีเกิ้ลทุกตัวที่จะหอน แต่ส่วนมากจะเห่าเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งบางตัวจะเห่าหรือหอน เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นใดกลิ่นหนึ่งโดยเฉพาะ 



บีเกิ้ล


 อาหารและการเลี้ยงดู

          แม้ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยเหตุที่จุดประสงค์ดั้งเดิมที่เค้าถูกพัฒนาขึ้นมาคือการเป็นสุนัข สำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกเค้ามีพลังงานในตัวมากและชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงจึงควรพาไปออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น และหากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีบริเวณกว้างขวางนัก อย่างเช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ คุณก็จะต้องพิจารณาให้ดีว่าคุณพอมีเวลาและมีสวนสาธารณะใกล้เคียงที่คุณสามารถพาเค้าไปเดินเล่นออกกำลังได้หรือไม่

          อย่างไรก็ดี สุนัขเหล่านี้ต้องอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด เพราะพวกมันช่างไม่มีสัญชาตญาณในการระวังภัยบนท้องถนนเอาเสียเลยและมักมีความเข้าใจอย่างผิดๆ ว่ารถทุกคันจะหยุดรอให้พวกมันไปก่อน

          ด้านการดูแลทำความสะอาดให้สุนัขขนสั้นอย่างบีเกิ้ลนั้นแสนง่าย แค่อาบน้ำให้อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ จากนั้นก็เช็ดหรือเป่าตัวให้แห้งพร้อมๆ กับแปรงขนไปด้วย หรือถ้าไม่สกปรกมากอาจใช้แค่ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัวให้ก็ได้ ส่วนเรื่องการแปรงขนให้บีเกิ้ลสามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากว่าเค้ามีขนสั้นและสีเข้ม ซึ่งควรแปรงขนทุกๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไปและช่วยเพิ่มความเงางามแข็งแรงแก่เส้นขน

          ส่วนเรื่องอาหารการกิน หากเราต้องการให้เค้ามีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัย ก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก ซึ่งวิธีการให้อาหารแก่บีเกิ้ลที่ถูกต้องก็มีดังนี้

           บีเกิ้ลอายุระหว่าง 2-3 เดือน ควรให้อาหารเม็ดวันละ 4 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย (ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง) โดยอาจใช้ถ้วยกาแฟขนาดเล็กตวง ผสมกับอาหารกระป๋อง 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว 

           บีเกิ้ลอายุระหว่าง 3-4 เดือน ควรให้อาหารเม็ดวันละ 3 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย (ทุกๆ 6-8 ชั่วโมง) ผสมอาหารกระป๋อง 1 ช้อนโต๊ะ

           บีเกิ้ลอายุระหว่าง 4-12 เดือน ควรปรับมาให้อาหารเม็ดวันละ 2 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย หรืออาจจะมากน้อยกว่านั้นเล็กน้อย โดยให้สังเกตดูรูปร่าง ถ้าท้องป่องมากเกินไปควรลดจำนวนอาหารแต่ละมื้อลงบ้าง และต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับระดับการออกกำลังกายของเค้าด้วย หากบีเกิลของคุณมีโอกาสออกกำลังกายน้อย ปริมาณอาหารที่ให้ก็ควรปรับลดลง

           เมื่อบีเกิ้ลอายุครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถลดปริมาณการให้อาหารเหลือวันละ 1 มื้อ มื้อละ 1-1/2 ถ้วย ก็เพียงพอแล้ว 

           นม ไม่จำเป็นต้องให้นมลูกสุนัขอีกหลังจากอายุครบ 2 เดือนขึ้นไป เพราะเมื่ออายุพ้น 2 เดือนแล้วเค้าจะสามารถหาแคลเซียมทดแทนจากการกินอาหารสำเร็จรูปได้

           อาหารเสริม สำหรับบีเกิลป่วยอาจให้อาหารเสริมบ้าง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องให้อาหารเสริมในยามที่เค้ามีสุขภาพปกติ

           อาหารคน ไม่ควรให้อาหารของคนกับบีเกิ้ลโดยเด็ดขาด เพราะเค้าอาจติดใจรสชาติ กลิ่นของอาหารคน และไม่อยากกินอาหารเม็ดอีกต่อไป นอกจากนั้นการให้อาหารสดยังอาจทำให้เค้าได้รับสารอาหารไม่เพียงพอหรือได้รับมากเกินไปจนทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาภายหลัง โดยเฉพาะเมื่อเค้าอายุมากขึ้น เช่น ปัญหาด้านการเจริญเติบโต ปัญหาสุขภาพขน การให้อาหารสดอาจให้บ้างเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นรางวัลสำหรับการฝึกเท่านั้น (ซึ่งอาจเป็นจำพวกตับ ไส้กรอก แฮม หรือชีส ก็ได้) 

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พันธ์ ไซบีเลี่ยน


มาตรฐานของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้
ลักษณะทั่วไป
ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขทำงานที่มีขนาดกลาง วิ่งเร็วและฝีเท้าเบา รักอิสระ และมีท่วงท่าสง่างาม ลำตัวปกคลุมด้วยขนนุ่มและหนาปานกลาง หูตั้งและหางเป็นพวง ลักษณะการเดินนุ่มนวล แรกเริ่มทีเดียวไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีความสามารถในการลากเลื่อนสิ่งของที่มีน้ำหนักเบา ด้วยความเร็วปานกลางได้ในระยะไกล สัดส่วนลำตัวและรูปร่างของไซบีเรียน ฮัสกี้ สะท้อนให้เห็นถึงสมดุลของกำลัง ความรวดเร็ว และความอดทน ไซบีเรียน ฮัสกี้ เพศผู้ได้รับการเพาะพันธุ์ (Breed) ให้มีความแข็งแรงแต่ไม่หยาบคาย ขณะที่เพศเมียมีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ไซบีเรียน เป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง และได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดี แต่ไม่ควรให้ลากหรือบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกินไป
ขนาดสัดส่วนองค์ประกอบ
ความสูง : ความสูงของเพศผู้อยู่ที่ 21 – 23 นิ้วครึ่ง ขณะที่ความสูงของเพศเมียอยู่ที่ 20-22 นิ้ว
โดยวัดจากส่วนที่สูงที่สุดของแผ่นหลัง
น้ำหนัก : เพศผู้มีน้ำหนัก 45 – 60 ปอนด์ เพศเมีย 35 – 50 ปอนด์ น้ำหนักเป็นสัดส่วนกับความสูง การวัดน้ำหนักและส่วนสูงดังกล่าวเป็นตัวแทนของส่วนสูงและน้ำหนักที่มากที่สุด โดยไม่ได้พิจารณาเงื่อนไขด้านอื่น ลักษณะของกระดูกหรือน้ำหนักที่มากเกินไปถือว่าเป็นโทษ ตามลักษณะทางโครงสร้าง ความยาวของลำตัวจากหัวไหล่ไปจนถึงด้านหลังของสะโพกยาวกว่าความสูงของลำตัวจากพื้นดิน จนจุดที่สูงที่สุดของแผ่นหลังเล็กน้อย
ลักษณะที่ไม่ดี : เพศผู้ที่มีความสูงเกิน 23 นิ้วครึ่ง และเพศเมียที่สูงกว่า 22 นิ้ว
ส่วนตัว
ลักษณะท่าทางการแสดงออก : ดุดัน แต่เป็นมิตร ช่างสนใจและซุกซน
ดวงตา : เป็นรูปเม็ดอัลมอนด์ เว้นระยะห่างกันปานกลาง และลาดเอียงเล็กน้อย
ดวงตาอาจจะเป็นสีน้ำตาลหรือฟ้าข้างใดข้างหนึ่งหรืออาจมีหลายสีก็ได้ ดวงตาที่ลาดเอียงมากเกินไป และอยู่ใกล้กันมากเกินไปถือว่าผิดลักษณะ
หู : มีขนาดปานกลาง เป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ใกล้กันในระยะที่เหมาะสม ตั้งตรงขึ้นไปจากศีรษะ ใบหูหนาปกคลุมด้วยขนนุ่มโค้งเล็กน้อยด้านหลังและตั้งชัน ปลายหูตั้งตรงและกลมมนเล็กน้อย หูที่ใหญ่มากเกินไปเมื่อเทียบสัดส่วนกีบศีรษะ ห่างกันมากเกินไป และไม่ตั้งชันถือว่าผิดลักษณะ
กะโหลกศีรษะ : มีขนาดกลางเมื่อเทียบสัดส่วนกับลำตัว ด้านบนกลมเล็กน้อยและเรียงลงจากจุดที่กว้างที่สุดจนถึงดวงตา ศีรษะใหญ่หรือหนัก ศีรษะเรียวเล็กเกินไปถือว่าผิดลักษณะ
หน้าผาก : ได้รูปและเชื่อมต่อไปจนถึงจมูก เป็นทางตรงจากหน้าผากจนถึงปลายจมูก หน้าผากแคบถือว่าผิดลักษณะ
ส่วนที่ยื่นของใบหน้า : มีความยาวปานกลาง เป็นระยะห่างจากปลายจมูกไปถึงหน้าผากเท่ากับระยะจาหน้าผากไปส่วนหัวด้านหลัง ส่วนที่ยื่นของใบหน้ามีความกว้างปานกลางและค่อยๆ เรียวลงไปจนจมูก ส่วนปลายไม่ชี้และไม่เป็นเหลี่ยม ส่วนที่ยื่นของใบหน้าเล็กเกินไปหรือกว้างเกินไป สั้นเกินไปหรือยาวเกินไป ถือว่าผิดลักษณะ
จมูก : สีดำเทา สีน้ำตาลเข้มหรือดำ น้ำตาลแก่ปนแดง หรืออาจเป็นสีเนื้อในสุนัขสีขาวสักสีชมพู หรือที่เรียกว่า จมูกหิมะ ก็ไม่ถือว่าผิดลักษณะ
ริมฝีปาก : มีเลือดฝาดและชิดกัน
ฟัน : ชิดกันเหมือนฟันกรรไกร ถ้าไม่ชิดกันเหมือนฟันกรรไกรถือว่าผิดลักษณะ
คอช่วงล่างลำตัว
คอ : ความยาวปานกลาง โค้งและตั้งตรงอย่างสง่าเมื่อสุนัขยืน เมื่อวิ่งเหยาะๆ คอจะยืดและศีรษะจะเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย คอสั้นและหนาเกินไป คอยาวเกินไป ถือว่าผิดลักษณะ
หน้าอก : ลึกและแข็งแรงแต่ไม่กว้างเกินไป จุดที่ลึกที่สุดอยู่ด้านหลังและเป็นระดับเดียวกันกับข้อศอก กระดูกซี่โครงมั่นคงเชื่อมต่อจากกระดูกสันหลัง มีลักษณะแบนด้านข้างเพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ หน้าอกกว้างเกินไป โดยเป็นรูปทรงกระบอก กระดูกซี่โครงแบนหรืออ่อนเกินไป ถือว่าผิดลักษณะ
หลัง : หลังตรงมั่นคง เริ่มจากระดับของช่วงตัวจากส่วนที่สูงที่สุดของแผ่นหลัง จนถึงส่วนที่สูงที่สุดของสะโพก มีความยาวปานกลาง หลังไม่สั้น และไม่เหยียดเกินไป เนื้อส่วนสะโพกไม่มีไขมัน สะโพกลาดเอียงออกจากกระดูกสันหลัง แต่ไม่ชันจนไปทิ่มขาหลัง หลังบอบบางหรือเหยียดถือว่าผิดลักษณะ
หาง : ขนตรงเป็นพวงแบบสุนัขจิ้งจอก หางอยู่ที่ระดับของก้น ตามปกติหางจะอยู่เหนือแผ่นหลังโค้งเป็นรูปเคียวสวยงามเมื่อสุนัขยืนตรง เมื่อสุนัขเคลื่อนไหว หางไม่ม้วนไปด้านใดด้านหนึ่งของลำตัว และไม่กระทบกับแผ่นหลัง หางจะทอดยาวเป็นปกติเมื่อสุนัขนอนหลับ ขนหางมีความยาวปานกลาง และมีขนยาวใกล้เคียงทั้งขนด้านบน ด้านข้าง และด้านล่าง ส่งผลหางเป็นพวงกลม หางม้วนแน่น ขนตั้งสูง หางอยู่ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ถือว่าผิดลักษณะ
ส่วนหน้า
ไหล่ : กระดูกหัวไหล่เอนลงด้านหลัง มุมต้นแขนสูงขึ้นไปทางด้านหลังเล็กน้อยจากไหล่ไปจนถึงข้อศอก และไม่ตั้งฉากกับพื้นดิน กล้ามเนื้อและเอ็นยึดไหล่ต่อตัวโดยกระดูกที่แข็งแรงและมั่นคง ไหล่หุบ ไหล่กว้างถือว่าผิดลักษณะ
ขาหน้า : เมื่อยืนและมองจากด้านหน้า ขามีช่องว่างห่างกันเล็กน้อย ขนานและตั้งตรง ข้อศอกติดกับลำตัว ไม่งอเข้างอออก เมื่อมองจากด้านข้างฝ่าเท้าลาดเอียงเล็กน้อย และเชื่อมต่อกันอย่างมั่นคงแต่ยืดหยุ่น กระดูกหนาแต่ไม่หนัก ความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นดินมากเท่าระยะจากข้อศอกถึงส่วนที่สูงที่สุดของแผ่นหลังเล็กน้อย นิ้วเท้าของขาหน้าถูกแยกออกจากกัน นิ้วเท้าบอบบาง บรรทุกหนักมากเกินไป ช่วงห่างระหว่างขาหน้าทั้งสองขาแคบเกินไปหรือกว้างเกินไป ขาแยกออกจากข้อซอกถือว่าผิดลักษณะ
เท้า : เป็นรูปวงรีแต่ไม่ยาว อุ้งเท้ามีขนาดกลาง กะทัดรัด มีขนขึ้นระหว่างนิ้วเท้า และเนื้อบริเวณเท้า เนื้อบริเวณเท้าหยาบและหนา อุ้งเท้าไม่หันเข้าหันออกเมื่อ ไซบีเรียนอยู่ในท่ายืนธรรมชาติ นิ้วเท้านุ่มหรือแบ อุ้งเท้าใหญ่มากเกินไปและเก้งก้าง อุ้งเท้าเล็กมากเกินไปและนุ่ม ปลายเท้าหันออกถือว่าผิดลักษณะ
ส่วนหลัง
เมื่อยืนและมองจากด้านหลัง ขาหลังมีระยะห่างกันปานกลางและขนานกัน ต้นขาท่อนบนเป็นมัดกล้ามและแข็งแรง กระดูกข้อต่อโค้งได้รูป ข้อเท้าเชื่อมต่อกันแน่น และตั้งต่ำลงสู่พื้นดิน นิ้วเท้าแยกจากกัน กระดูกข้อต่อตั้งตรง ช่องว่างระหว่างขาหลัง ขาแคบ
ขน
ไซบีเรียนมีขน ชั้นและมีความยาวปานกลาง ขนไม่ยาวจนไม่สามารถทำความสะอาดได้ ขนชั้นในนุ่มหนาและมีความยาวพอที่จะพยุงขนชั้นนอก ขนชั้นนอกตรงและบางส่วนเหยียดเรียบไม่หยาบหรือไม่ตั้งตรงจากลำตัว น่าสังเกตว่าการไม่มีขนชันในช่วงฤดูผลัดขนถือเป็นเรื่องปกติ การตัดแต่งขนบริเวณหนวด ขนระหว่างนิ้วเท้าและรอบๆ เท้า ส่งผลให้ลักษณะภายนอกดูเรียบร้อยมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับได้และไม่ถือว่าผิดลักษณะ การตัดแต่งในส่วนอื่นๆ ของสุนัขไม่เป็นที่ยอมรับและถือว่าผิดร้ายแรง ขนยาวสากหรือหยาบ เส้นขนหยาบเกินไปหรือนุ่มเกินไป การตัดแต่งขนนอกเหนือจากที่กล่าวไว้ข้างต้นถือว่าผิดลักษณะ 

สี
ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่ถูกลักษณะมีทุกสีตั้งแต่สีดำไปจนถึงสีขาวบริสุทธิ์ แต้มหรือตำหนิบนศีรษะ รวมทั้งรูปแบบของรอบประทับอื่นๆ ที่ไม่พบในสายพันธุ์อื่นเป็นเรื่องปกติ
การเดิน
ลักษณะการเดินของสุนัขพันธ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ นุ่มนวลและดูเหมือนไม่ออกแรงสักเท่าไร เท้าเร็วและเบา เมื่ออยู่ในการแสดงการย่างก้าวห่างๆ และเดินด้วยความเร็วปานกลาง ขาหน้าเดินนำได้ดี ขณะที่ขาหลังคอยขับเคลื่อน เมื่อมองจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ในขณะเดิน ไซบีเรียนจะไม่เดินอย่างเดียวแต่จะเพิ่มความเร็วทีละน้อยจากขา ข้อต่อด้านในจนกระทั่งฝ่าเท้าจมลงพื้น ไซบีเรียนเดินเป็นเส้นตรงตามความยาวของกลางลำตัว ขณะที่ฝ่าเท้าแตะพื้นขาหน้าและขาหลังจะมุ่งตรงไปข้างหน้า แต่ข้อศอกหรือกระดูกข้อต่อไม่งอเข้าหรืองอออก ขาหลังแต่ละข้างเคลื่อนไหวตามรอยขาหน้าของขาข้างเดียวกัน ขณะที่สุนัขกำลังเดินส่วนล่างยังมั่นคงและเป็นระดับเดียวกัน เดินก้าวสั้น กระโดดไปมาหรือเดินวนไปวนมา เดินงุ่มง่ามหรือเดินเป็นวงกลม เดินไขว้ไปมาหรือเดินเอียงถือว่าผิดลักษณะ
อารมณ์
ลักษณะอารมณ์ของไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นมิตรและสุภาพ แต่ก็ว่องไวและชอบเข้าสังคม ไซบีเรียนจะไม่แสดงท่าทางให้เห็นว่าเป็นสุนัขคอยคุ้มครองที่มีคุณภาพ จะไม่สงสัยคนแปลกหน้ามากเกินไปหรือไม่ก้าวร้าวเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ ไซบีเรียน ฮัสกี้ โตเต็มที่มีความสวยและสง่างาม สะอาด อ่อนโยนหัวอ่อน สอนง่าย ความอยากรู้อยากเห็นของไซบีเรียนทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นเพื่อนที่น่าคบ และเป็นแรงงานที่เต็มใจ
สรุป
ลักษณะทางสายพันธุ์ที่สำคัญที่สุดของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน คือ มีขนาดกลาง กระดูกปานกลาง มีสัดส่วนสมดุล มีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ สบายใจ มีขนยาวปกคลุมสมส่วน ศีรษะและหูสวย หางได้รูป มีท่าทางการเดินที่สง่างาม ลักษณะภายนอกอื่นๆ เช่น กระดูกหรือน้ำหนักมาก เดินช้า งุ่มง่าม หรือขนยาวหยาบถือว่าผิดลักษณะ จะไม่ปรากฏว่าไซบีเรียน ฮัสกี้ มีน้ำหนักมาก หรือหยาบคาย จึงได้รับการแนะนำให้เป็นสุนัขในการบรรทุกสินค้า ไซบีเรียนที่มีน้ำหนักเบาและบอบบางได้รับการแนะนำให้เป็นสุขในการแข่งขันไซบีเรียนทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีความอดทนสูง โครงสร้างที่ผิดลักษณะถือเป็นเรื่องปกติกับสุนัขทุกสายพันธุ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาในสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ พอๆ กับสุนัขสายพันธุ์อื่น ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษตามสายพันธุ์ในที่นี้ก็ตาม
การผิดลักษณะ
เพศผู้ที่มีความสูงมากกว่า 23 นิ้วครึ่ง และเพศเมียที่สูงเกิน 22 นิ้ว

pommeranian